สภาพการณ์ หรือพฤติกรรมการปฏิบัติงานที่แสดงถึงจุดวิกฤตของการทำงานเป็นทีม ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อผลประกอบการและความอยู่รอดของค์การ ผู้บริหารองค์การจำเป็นต้องสร้างทีมงานที่มีประสิทธิภาพเพื่อแก้ไขปัญหาวิกฤตที่อาจเกิดขึ้นจากสภาพการณ์ต่างๆ ดังต่อไปนี้ครับ
- เมื่อเห็นบุคคลในองค์การต่างคนต่างทำงานอย่างโดดเดี่ยว อาจเป็นเพราะธรรมชาติของงานในหน้าที่มีเอกลักษณ์เฉพาะ เช่น พนักงานขายมักทำงานตามลำพัง แต่โดยความเป็นจริงแล้วพนักงานขายมีความต้องการในความรูสึกว่าเขาเป็นส่วนหนึ่งของทีมงาน จึงเชื่อได้ว่าถ้าถึงเวลาแล้วที่จะต้องสร้างทีมงานขายให้กับพนักงานขายเหล่านั้น
- เมื่องานมีความซับซ้อน จำเป็นต้องใช้ทักษะร่วมกัน และการทำงานในระดับต่างๆ ของเอกบุคคลสามารถสร้างเสริมความสามารถของผู้อื่นได้ ซึ่งการสอนงานภายในกลุ่มทีมงานจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานให้สูงยิ่งขึ้น
- เมื่อการตัดสินใจต้องมาจากการตัดสินใจของกลุ่ม บ่อยครั้งที่การตัดสินใจที่ดีมีประสิทธิภาพต้องอาศัยปัจจัยป้อนเข้าจากแหล่งต่างๆ อาศัยข้อมูลที่แท้จริงจากทั้งภายในและภายนอกองค์การ และใช้หลักการประชุมระดมสมองเพื่อการตัดสินใจร่วมกัน
- เมื่อความสัมพันธ์ของสายบังคับบัญชาไม่ค่อยมีความแข้มแข็ง ทีมงานจะเป็นสื่อกลางที่ดีกว่าในการเพิ่มการจูงใจและช่วยให้ความสัมพันธ์ของสายการบังคับบัญชาเกิดกระบวนการตรวจสอบการรายงานได้รับการพัฒนาที่ดีขึ้น ลดความซ้ำซ้อนของการควบคุมสั่งการ
- เมื่อปัญหามีความสลับซับซ้อน จำเป็นต้องอาศัยความชำนาญหลายสาขา องค์การขนาดใหญ่ส่วนมากมีคณะกรรมการอำนวยการ ซึ่งถือเป็นทีมงานระดับสูง คอยควบคุมวางแผน กำหนดนโยบายขององค์การ จึงทำให้สามารถบริหารจัดการองค์การได้อย่างทั่วถึงทุกส่วนของงาน
- เมื่อผู้ปฏิบัติงานต้องการสนับสนุน เมื่อชวัญขึ้นอยู่กับการสนับสนุนจากฝ่ายอื่นๆ เมื่อเอกบุคคลไม่สามารถทำงานได้ตามลำพัง ทีมงานสามารถเป็นสื่อกลางในการสนองความต้องการจัดทีมงานให้การสนับสนุนได้
- เมื่อไม่สามารถระบุจุดแข็งและจุดอ่อนของเอกบุคคล ทีมงานสามารถอำนวยความสะดวกให้กับความเข้าใจที่ดีกว่าในการกำจัดจุดอ่อนและพัฒนาจุดแข็งของบุคคลในทีมด้วยกระบวนการกลุ่ม เมื่อจำเป็นต้องให้เกิดการพัฒนาที่สำคัญ ทีมงานจะเป็นสื่อกลางที่มีประสิทธิภาพในการสนองความต้องการ
- สิ่งที่เป็นเครื่องขัดขวางการทำงานเป็นทีม ได้แก่
- เจตคติที่ไม่ดีต่อกันระหว่างสมาชิกในทีม ซึ่งก่อให้เกิดการต่อต้าน
- ความรู้สึกว่าเป็นคนนอกกลุ่ม จึงขาดจิตสำนึกความรับผิดในงาน
- ความไม่เป็นธรรมเรื่องค่าจ้าง เงินเดือน หรือผลตอบแทน
- ความยากลำบากในการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน
- ขาดความชัดเจนในเรื่องของบทบาทหน้าที่ และยุทธวิธีการปฏิบัติงาน
- ขาดการวางแผนอย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งการแก้ไขปัญหา และการวินิจฉัยสั่งการ
- การไร้สมรรถภาพในการบริหาร ทำให้เกิดความขัดแย้งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยเฉพาะมีความคิดเห็นที่แตกต่างกันในการทำงานให้สำเร็จ